ทำไมต้องบริหารสมองทุกวัน? เผยเหตุผลและประโยชน์ที่หลายคนยังไม่รู้

กลุ่มที่ 1: ท่ากระตุ้นสมองให้ตื่นตัวและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

เริ่มต้นวันด้วยท่าบริหารสมองแบบง่าย ๆ เพื่อปลุกสมองให้ตื่น เต็มไปด้วยพลัง และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เมื่อออกซิเจนไหลเวียนสู่สมองได้ดี สมองก็ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ทำให้คิดไว จดจ่อได้นาน และพร้อมรับมือกับงานต่าง ๆ

ท่าบริหารปุ่มสมอง (Brain Button Exercise)

วิธีทำ:

ใช้นิ้วมือกดเบา ๆ บริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าและเหนือสะดือ พร้อมหายใจลึก ๆ ช้า ๆ

ประโยชน์

ท่านี้ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดไปยังสมองโดยตรง ทำให้รู้สึกสดชื่น สมองปลอดโปร่ง และเพิ่มสมาธิ เหมาะกับคนที่ต้องใช้สมองคิดวิเคราะห์หรืออ่านหนังสือบ่อย ๆ [Fernando Gomez-Pinilla, Charles Hillman, 2014]

ท่าบริหารปุ่มขมับ (Temporal Massage)

วิธีทำ:

ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางนวดขมับเป็นวงกลมเบา ๆ 1-2 นาที

ประโยชน์

ช่วยคลายกล้ามเนื้อใบหน้า ช่วยคลายอาการตาล้าจากการเพ่งจอคอม ลดอาการปวดหัวจากความเครียด และเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้สมองตื่นตัว เหมาะกับช่วงพักจากงานหรือก่อนเริ่มประชุม

ท่ามองซ้าย–ขวา (Eye Movement Exercise)

วิธีทำ:

มองไปทางซ้ายและขวาช้า ๆ สลับกัน 10 ครั้ง

ประโยชน์

เป็นท่าบริหารสมองป้องกันสมองเสื่อมที่ช่วยให้สมองซีกซ้ายและขวาทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น เสริมสมดุลการรับรู้และความจำ [Ji-Wei Chen, Wen-Qian Du, Kun Zhu, 2024]

ท่าเดินถอยหลัง (Backward Walking Exercise)

วิธีทำ:

เดินถอยหลังช้า ๆ 1-2 นาที พร้อมโฟกัสกับการก้าวแต่ละก้าว

ประโยชน์

ถือเป็นการออกกำลังกายที่บ้าน ที่ช่วยฝึกการคิดย้อนลำดับและพัฒนาความสมดุลของร่างกาย พร้อมกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวไปด้วย [Narayanasamy Sai Srinivas, Vijayaragavan Vimalan, Parasuraman Padmanabhan, Balázs Gulyás, 2021]

กลุ่มที่ 2: ท่าพัฒนาการประสานงานของมือ–ตา และสมองสองซีก

ท่าบริหารสมองกลุ่มนี้ช่วยให้สมองซีกซ้าย–ขวาทำงานประสานกันได้ดีขึ้น โดยเน้นการฝึกทักษะการทำงานร่วมกันของนิ้ว มือ และ ตา ไปพร้อม ๆกัน เพื่อฝึกสมาธิ ความยืดหยุ่นทางความคิด และพัฒนาความจำในระยะยาว

ท่าจีบ L กระตุ้นการทำงานของมือกับตา

วิธีทำ:

จีบมือเป็นรูปตัว L แล้วยื่นออกไปด้านหน้า เคลื่อนไหวช้า ๆ ในระดับสายตา

ประโยชน์

ช่วยให้สมองส่วนการมองเห็นและการเคลื่อนไหวทำงานสัมพันธ์กัน เหมาะกับคนที่ต้องการฝึกสมาธิให้แน่วแน่]

ท่าโป้งก้อย ช่วยให้สมองสองซีกทำงานสมดุล

วิธีทำ:

แตะนิ้วโป้งกับนิ้วก้อยสลับกัน 10-20 ครั้ง

ประโยชน์

เป็นการบริหารสมองด้วยนิ้วที่ช่วยให้สมองสองซีกสื่อสารกันดีขึ้น ฝึกความคล่องตัวและการประมวลผลของสมอง

ท่าจับมือไขว้ ขยับสลับข้าง (Cross Crawl Exercise)

วิธีทำ:

แตะเข่าขวาด้วยมือซ้ายแล้วสลับช้า ๆ ค่อย ๆ เพิ่มความเร็ว

ประโยชน์

ช่วยพัฒนาและกระตุ้นสมองส่วนความจำและการเคลื่อนไหว

อยากรู้ว่าสมองของคุณยังฟิตแค่ไหน?
ลองทดสอบอายุสมองได้ที่ CogMate™

ท่ากำมือ–แบมือ (Finger Exercise)

วิธีทำ:

กำมือ–แบมือพร้อมกันทั้งสองข้าง 20 ครั้ง

ประโยชน์

ช่วยกระตุ้นการสั่งงานของสมองซ้าย–ขวา เหมาะสำหรับทำระหว่างพักจากการทำงาน เพื่อดูแลสุขภาพสมองให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

ท่าเลข 8 ในอากาศ (Lazy 8 Exercise)

วิธีทำ:

ใช้นิ้วชี้วาดเลข 8 แนวนอนในอากาศ พร้อมให้สายตาตามนิ้ว

ประโยชน์

ช่วยให้สมองซ้าย–ขวาทำงานร่วมกัน พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างมือและตา

ท่าพับหู–ดึงจมูก ฝึกการประสานงานของสมอง (Ear-Nose Switcharoo)

วิธีทำ:

จับหูข้างหนึ่งและจมูกอีกข้าง แล้วสลับอย่างรวดเร็ว

ประโยชน์

ท่านี้ต้องใช้สมาธิสูง ช่วยกระตุ้นสมองให้ตอบสนองไว เหมาะกับการฝึกความคล่องตัวทางความคิด

กลุ่มที่ 3: ท่าช่วยเพิ่มสมาธิและความจำ

หลังจากที่สมองได้เคลื่อนไหวเต็มที่แล้ว มาปิดท้ายด้วยท่าบริหารสมองที่ช่วยให้สมองสงบ มีสมาธิ และพร้อมรับข้อมูลใหม่ ๆ ได้ดียิ่งขึ้น

ท่าแตะหู (Ear Touch Exercise)

วิธีทำ:

แตะติ่งหูเบา ๆ พร้อมหายใจเข้า–ออกลึก ๆ

ประโยชน์

ช่วยผ่อนคลายระบบประสาท เพิ่มสมาธิ เหมาะก่อนอ่านหนังสือหรือทำงาน

ท่ากดปุ่มใบหู ช่วยเพิ่มสมาธิและความจำระยะสั้น

วิธีทำ:

ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้กดเบา ๆ โคนใบหู 10-15 วินาที ทำซ้ำ 2-3 รอบ

ประโยชน์

ช่วยกระตุ้นสมองส่วนการจดจำ เป็นท่าบริหารสมองป้องกันสมองเสื่อมที่ทำได้ง่ายทุกวัย

ท่าโยคะสมาธิ กระตุ้นสมองและเพิ่มสมาธิ (Super Brain Yoga)

วิธีทำ:

จับติ่งหูแบบไขว้มือซ้าย–ขวา แล้วย่อตัวขึ้น–ลงช้า ๆ 10 ครั้ง

ประโยชน์

เป็นการออกกำลังกายสมองที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือด กระตุ้นสมาธิ และสร้างสมดุลพลังงานในร่างกาย